การท่องเที่ยวชมโลมาบ้านเขาออก
การท่องเที่ยวชมโลมาบ้านเขาออก เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช นักท่องเที่ยวจะได้ชมความน่ารักของโลมาสีชมพูอย่างใกล้ชิด
ชมโลมาสีชมพู เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวจะได้ชมความน่ารักของสัตว์ทะเลหายากอย่างใกล้ชิด
โลมาสีชมพูเป็นสัตว์ทะเลหายากที่อาศัยอยู่ในบริเวณปากแม่น้ำและชายฝั่งทะเล ขนอมเป็นสถานที่ที่พบเห็นโลมาสีชมพูได้บ่อยที่สุดในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถชมโลมาสีชมพูได้ในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลมาสีชมพูออกมาหาอาหาร
นักท่องเที่ยวสามารถชมโลมาสีชมพูได้ โดยล่องเรือชมโลมา เรือนำเที่ยวจะพานักท่องเที่ยวออกเดินทางจากท่าเรือเขาออก ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็จะถึงบริเวณที่พบเห็นโลมาสีชมพู
เมื่อถึงบริเวณที่พบเห็นโลมาสีชมพู เรือนำเที่ยวจะจอดเรือให้นักท่องเที่ยวได้ชมโลมาสีชมพูจากระยะใกล้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความน่ารักของโลมาสีชมพูอย่างใกล้ชิด
ความน่ารักของโลมาสีชมพู
โลมาสีชมพูเป็นสัตว์ทะเลที่น่ารักเป็นอย่างมาก มีลำตัวสีชมพูสดใส บางครั้งก็อาจพบเห็นโลมาสีชมพูที่มีสีชมพูอ่อนหรือสีชมพูเข้ม โลมาสีชมพูเป็นสัตว์สังคม มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง
โลมาสีชมพูเป็นสัตว์ที่ฉลาดและร่าเริง นักท่องเที่ยวจะได้ชมโลมาสีชมพูว่ายน้ำเล่น กระโดดโลดเต้น บางครั้งก็อาจเห็นโลมาสีชมพูว่ายน้ำมาใกล้เรือให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอ
นอกจากการชมโลมาแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย เช่น หินผับผ้า บ่อน้ำจืดกลางทะเล หลวงปู่ทวด เกาะนุ้ย เป็นต้น
การท่องเที่ยวชมโลมาบ้านเขาออก เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าและน่าประทับใจ นักท่องเที่ยวจะได้ชมความน่ารักของโลมาสีชมพูอย่างใกล้ชิด และสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม
การจองเรือชมโลมาบ้านเขาออก สามารถทำได้โดยการติดต่อไปยัง (คุณออ) ทางโทรศัพท์ 086-944-6851 ซึ่งเป็นรองประธานกลุ่มเรือนำเที่ยวโดยตรง หรือ เฟสบุ๊ค: กลุ่มเขาออกการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์-ท่าเรือชมโลมาบ้านเขาออก
โดยบอกข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยว วันและเวลาที่ต้องการล่องเรือ และความต้องการอื่นๆ ของนักท่องเที่ยว จากนั้นจะแจ้งราคาค่าเรือและรายละเอียดอื่นๆ ของทริปให้นักท่องเที่ยวทราบ
นักท่องเที่ยวควรจองเรือล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพื่อที่ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวจะได้เตรียมเรือและอุปกรณ์ให้พร้อม นักท่องเที่ยวควรแจ้งให้ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวทราบหากมีความต้องการพิเศษ เช่น ต้องการถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอ
ปัจจุบัน กลุ่มเขาออกมีเรือให้บริการล่องเรือชมโลมาสีชมพูจำนวน 22 ลำ เรือแต่ละลำสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 7 คน ใช้เวลาในการท่องเที่ยวประมาณ 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจะได้ชมความน่ารักของโลมาสีชมพูที่กำลังว่ายน้ำเล่นในทะเล บางครั้งโลมาสีชมพูก็อาจจะกระโดดขึ้นมาเหนือน้ำให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
นอกจากการล่องเรือชมโลมาสีชมพูแล้ว กลุ่มเขาออกยังมีบริการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ล่องเรือชมป่าชายเลน ดำน้ำดูปะการัง เป็นต้น
หินผับผ้า อำเภอขนอม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ในทะเลขนอม ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร
หินผับผ้ามีลักษณะเป็นผาหินรูปร่างแปลกตา มีลักษณะเป็นแผ่นหินทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายกับผ้าพับไว้เป็นชั้นๆ หินผับผ้ามีความยาวประมาณ 500 เมตร กว้างประมาณ 100 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร
หินผับผ้าเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เรียกว่า การกัดเซาะของคลื่น คลื่นทะเลที่กระทบกับหน้าผาหินอ่อนเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการกัดเซาะและยุบตัวลง เกิดเป็นหน้าผาหินขนาดใหญ่ ต่อมาหน้าผาหินนี้ถูกกัดเซาะจนเกิดเป็นชั้นหินทับซ้อนกันหลายชั้น กลายเป็นหินผับผ้าอย่างที่เห็น
หินผับผ้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมหินผับผ้าได้ โดยเรือนำเที่ยวจะพานักท่องเที่ยวออกเดินทางจากท่าเรือแหลมประทับ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็จะถึงบริเวณหินผับผ้า
เมื่อถึงบริเวณหินผับผ้า เรือนำเที่ยวจะจอดเรือให้นักท่องเที่ยวได้ชมหินผับผ้าจากระยะใกล้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของหินผับผ้าอย่างใกล้ชิด
หินผับผ้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
ข้อควรปฏิบัติในการชมหินผับผ้า
นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติในการชมหินผับผ้า ดังนี้
ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่นำเที่ยวอย่างเคร่งครัด
ห้ามปีนขึ้นไปบนหินผับผ้า เพราะอาจเกิดอันตรายได้
ห้ามทิ้งขยะลงทะเล เพื่อรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม
การชมหินผับผ้าเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและสัมผัสกับปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่น่าอัศจรรย์
บ่อน้ำจืดกลางทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่บนเกาะนุ้ยนอก ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร
บ่อน้ำจืดกลางทะเลมีลักษณะเป็นแอ่งหินรูปทรงคล้ายรอยเท้า มีน้ำใสสะอาดไหลเอ่ออยู่ตลอดเวลา เมื่อน้ำทะเลขึ้น บ่อน้ำจืดจะถูกน้ำทะเลท่วมมิด แต่พอน้ำทะเลลง บ่อน้ำจืดก็จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง
บ่อน้ำจืดกลางทะเลเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เรียกว่า การกัดเซาะของคลื่น คลื่นทะเลที่กระทบกับหน้าผาหินอ่อนเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการกัดเซาะและยุบตัวลง เกิดเป็นโพรงหินขนาดใหญ่ ต่อมาโพรงหินนี้ถูกเติมเต็มด้วยน้ำจืดจากใต้ดิน กลายเป็นบ่อน้ำจืดกลางทะเลอย่างที่เห็น
บ่อน้ำจืดกลางทะเลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมบ่อน้ำจืดกลางทะเลได้ โดยเรือนำเที่ยวจะพานักท่องเที่ยวออกเดินทางจากท่าเรือแหลมประทับ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็จะถึงบริเวณบ่อน้ำจืดกลางทะเล
เมื่อถึงบริเวณบ่อน้ำจืดกลางทะเล เรือนำเที่ยวจะจอดเรือให้นักท่องเที่ยวได้ชมบ่อน้ำจืดกลางทะเลจากระยะใกล้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำจืดกลางทะเลอย่างใกล้ชิด
บ่อน้ำจืดกลางทะเลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
หลวงปู่ทวด เกาะนุ้ย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่บนเกาะนุ้ยนอก ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร บนเกาะนุ้ยมีรูปปั้นหลวงปู่ทวดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเล รูปปั้นหลวงปู่ทวดมีหน้าตักกว้าง 36 นิ้ว สูง 12 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนและนักท่องเที่ยว
นอกจากรูปปั้นหลวงปู่ทวดแล้ว บนเกาะนุ้ยยังมีบ่อน้ำจืดกลางทะเล ซึ่งเป็นตำนานเล่าขานกันว่า เกิดจากรอยเท้าของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
หลวงปู่ทวดเป็นบุคคลที่ชาวไทยให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มากมาย สามารถช่วยปกป้องคุ้มครองผู้คนจากภัยอันตรายทั้งปวง
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะนุ้ยนอก มักจะแวะสักการะหลวงปู่ทวด เพื่อขอพรให้ชีวิตพบแต่ความสุขความเจริญ
ตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
ตำนานเล่าว่า หลวงปู่ทวดได้เดินทางมายังเกาะนุ้ยนอกเพื่อโปรดสัตว์ ขณะนั้นเกิดพายุใหญ่ขึ้น หลวงปู่ทวดจึงเหยียบน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืด เพื่อให้ชาวบ้านและสัตว์ทะเลมีน้ำดื่ม
ตำนานนี้สร้างความมหัศจรรย์ให้กับชาวบ้านในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก ชาวบ้านจึงสร้างรูปปั้นหลวงปู่ทวดไว้บนเกาะนุ้ยนอก เพื่อเป็นที่สักการะบูชา
ในปัจจุบัน รูปปั้นหลวงปู่ทวดบนเกาะนุ้ยนอกได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ต่างก็เชื่อกันว่า หลวงปู่ทวดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาอยู่
ข้อควรปฏิบัติในการสักการะหลวงปู่ทวด
นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติในการสักการะหลวงปู่ทวด ดังนี้
แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
ถวายดอกไม้ ธูป เทียน ผลไม้
ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากหลวงปู่ทวด
กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล
การสักการะหลวงปู่ทวดเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวจะได้สักการะหลวงปู่ทวดเพื่อความเป็นสิริมงคล
การชมวิวทิวทัศน์ป่าโกงกาง รอยต่อระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎธานี เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของป่าโกงกางธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ป่าโกงกางธรรมชาติแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวขนอม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท้องเนียน ตำบลขนอม และตำบลขนอมใต้ มีพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ เป็นป่าโกงกางที่สมบูรณ์และอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งในประเทศไทย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด เช่น ปู ปลา กุ้ง หอย นก ฯลฯ
นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ป่าโกงกางธรรมชาติได้ โดยล่องเรือชมป่าโกงกาง เรือนำเที่ยวจะพานักท่องเที่ยวออกเดินทางจากท่าเรือแหลมประทับ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็จะถึงบริเวณป่าโกงกางธรรมชาติ
เมื่อถึงบริเวณป่าโกงกางธรรมชาติ เรือนำเที่ยวจะจอดเรือให้นักท่องเที่ยวได้ชมป่าโกงกางธรรมชาติจากระยะใกล้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของป่าโกงกางธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ความงดงามของป่าโกงกางธรรมชาติ
ป่าโกงกางธรรมชาติแห่งนี้มีความงดงามและอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ต้นโกงกางขึ้นเรียงรายเป็นแนวยาว แผ่กิ่งก้านสาขาออกปกคลุมพื้นน้ำ มองดูคล้ายกับป่ารกทึบ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ
นอกจากความงดงามของป่าโกงกางแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ชมความหลากหลายของสัตว์ทะเลนานาชนิด นกทะเลหลากสีสันบินโฉบเฉี่ยวไปมาเหนือท้องน้ำ ปู ปลา กุ้ง หอย แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของป่าโกงกางและสัตว์ทะเล
ข้อควรปฏิบัติในการชมวิวทิวทัศน์ป่าโกงกางธรรมชาติ
นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติในการชมวิวทิวทัศน์ป่าโกงกางธรรมชาติ ดังนี้
ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่นำเที่ยวอย่างเคร่งครัด
ห้ามปีนขึ้นไปบนต้นโกงกาง เพราะอาจเกิดอันตรายได้
ห้ามทิ้งขยะลงทะเล เพื่อรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม
การชมวิวทิวทัศน์ป่าโกงกางธรรมชาติเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอขนอม นักท่องเที่ยวจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของป่าโกงกาง
การเดินทาง
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวชมโลมาบ้านเขาออกได้หลายวิธี ดังนี้
โดยรถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถส่วนตัวหรือเช่ารถขับจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง เส้นทางที่แนะนำคือ กรุงเทพฯ-นครสวรรค์-สุราษฎร์ธานี-ขนอม
โดยรถประจำทาง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถประจำทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถประจำทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราชไปยังอำเภอขนอม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง
โดยเครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นต่อรถตู้หรือรถโดยสารประจำทางไปยังอำเภอขนอม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
การล่องเรือชมโลมา
นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมโลมาได้ที่ท่าเรือบ้านเขาออก เรือนำเที่ยวจะพานักท่องเที่ยวออกเดินทางจากท่าเรือบ้านเขาออก ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็จะถึงบริเวณที่พบเห็นโลมาสีชมพู
ช่วงเวลาที่พบเห็นโลมาสีชมพู
นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นโลมาสีชมพูได้ในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลมาสีชมพูออกมาหาอาหาร นักท่องเที่ยวควรจองเรือนำเที่ยวล่วงหน้า เพราะในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
ข้อควรปฏิบัติในการชมโลมา
นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติในการชมโลมา ดังนี้
ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่นำเที่ยวอย่างเคร่งครัด
ห้ามให้อาหารโลมา เพราะเป็นการรบกวนพฤติกรรมการหาอาหารของโลมา
ห้ามเข้าใกล้โลมามากเกินไป เพราะอาจเป็นอันตรายต่อโลมาและนักท่องเที่ยว
ห้ามทิ้งขยะลงทะเล เพื่อรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง
นอกจากการชมโลมาแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย เช่น หินผับผ้า บ่อน้ำจืดกลางทะเล หลวงปู่ทวด เกาะนุ้ย เป็นต้น
การท่องเที่ยวชมโลมาบ้านเขาออก เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าและน่าประทับใจ นักท่องเที่ยวจะได้ชมความน่ารักของโลมาสีชมพูอย่างใกล้ชิด และสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม